Base On Seefah Story
เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ชายผู้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน ต่อสู้ดิ้นรนทำงานในเมืองไทย จนวันหนึ่งได้ร่วมมือกับเพื่อนอีกคน ร่วมกันก่อตั้งร้านอาหาร ณ อาคารเล็กๆห้องเดียวชั้นเดียวไม่มีชื่อย่านราชวงศ์ เมื่อปีพ.ศ. 2479 ร้านนี้ขายแต่ไอศกรีม กาแฟ และผลไม้ แช่แข็งเท่านั้น แต่กิจการก็ดำเนินด้วยดีจนต้องขยายร้านมากห้องขึ้น เมื่อร้านอาหารบริเวณรอบข้างปิดตัวลง ร้านจึงริเริ่มทำอาหารคาวด้วยตัวเอง โดยจ้างกุ๊กตกงานจากร้านดังกล่าวมาคิดสูตรซึ่งส่วนมากเป็นอาหารจีน ด้วยความที่เป็นย่านมีคนชั้นสูงเป็นเจ้าของตึก ลูกค้าของร้านในช่วงนั้นจึงเป็นเหล่าไฮโซ คนมีระดับที่ขับรถมากิน บ้างก็นั่งกินในรถ โดยมีถาดอาหารติดรถเสิร์ฟ ถือเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับคนแถวนั้น ต่อมามีการขยับขยายร้านอีกครั้ง ด้วยการทาสีผนังใหม่เป็นสีฟ้า แสงไฟจาหลอดนีออนสะท้อนกับผนังในร้านทำให้ผู้คนทั่วไปที่ผ่านมาเห็นเรียก ร้านอาหารแห่งราชวงศ์นี้ว่า “สีฟ้า”


BLUE GENES
Blue Spice by Seefah
ร้านอาหารสไตล์ร่วมสมัย เรียกได้ว่าเป็นการฉีกแนวทางของสีฟ้าไปในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้หยุดอยู่ แค่การเสิร์ฟอาหารไทย-จีนเพียงอย่างเดียว แต่นำเอาความเป็นสากลของอาหารต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง เข้ามาเป็นตัวชูโรงให้รสชาติของ Blue spice อยู่ที่ความหลากหลายของอาหารบนหน้าเมนู อาทิ สเต๊ก กริลแซลมอน พิซซ่า เทมปุระ โทคัตสึ และมีการนำเอาอาหารดั้งเดิมจากสีฟ้าในยุคราชวงศ์เข้ามาผสมผสาน เช่น อีหมี่ ในเมนูสีฟ้า จากเดิมที่ใช้เส้นใหญ่อบแล้วเสิร์ฟบนหม้อดิน แต่เมื่อถูกนำมาประยุกต์ให้อยู่บนเมนูของ Blue spice ก็จะใช้เส้นบะหมี่เสิร์ฟบนกระทะร้อนแทน
Foodwork
กว่าจะเป็นอาหารบนโต๊ะแสนอร่อยให้คุณได้รับประทานกัน เราต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการซับซ้อนวุ่นวายมากมายเหลือเกิน จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราขอผ่าวงจรการทำงานของร้านสีฟ้า ให้พวกคุณได้ชมกัน


BLUE Renovation
ย้อนไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ภาพบรรยากาศของโต๊ะเก้าอี้เชคโบราณ ตู้ไม้ที่วางเรียงรายหน้าร้านสำหรับแขวนเป็ดย่างและตู้ชงกาแฟ คงเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับลูกค้าของร้านสีฟ้า ที่เมื่อเดินก้าวเขามาครั้งใดก็จะสามารถสัมผัสได้กับกลิ่นอายของสไตล์จีน โบราณ
เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป สีฟ้าเองก็ไม่คิดที่จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ในด้านการตกแต่งและการดีไซน์ร้าน มีการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับยุคสมัย และพลิกเอาภาพในมุมมองที่ใครหลายๆคนอาจไม่เคยเห็นว่าแท้จริงแล้ว โฉมหน้าของสีฟ้านั้นเป็นอย่างไร
Behind The BLUE Sign
รู้หรือไม่ว่า…ตัวอักษรบนลวดลายประแจจีน ที่เรียงรายเป็นคำสั้นๆว่า “สีฟ้า” กับภาพลายเส้นถ้วยไอติมโบราณนั้น คือสัญลักษณ์ของสีฟ้าที่ถูกออกแบบมาในยุคต้นๆและเมื่อถึงในช่วงเวลาหนึ่ง ก็ได้มีการนำเอาเอกลักษณ์ของ 2 สิ่งนี้เข้ามาผสมผสานกัน กลายเป็นตัวอักษรคำว่า “ห้องอาหารสีฟ้า” ที่อยู่ภายใต้รูปทรงของชามจีนโบราณ ซึ่งสื่อให้เห็นว่าตัวร้านสีฟ้าและอาหาร คือสิ่งที่อยู่คู่กันและเป็นสิ่งเดียวกันโดยมีพ.ศ. 2479 แสดงถึงจุดเริ่มต้นและบ่งบอกถึงความยาวนาน


Seefah Mania
หม่อมราชวงศ์รุจิราภา อาภากร “ผมว่าสีฟ้ามีเสน่ห์ที่ร้านอื่นไม่มี ตัวพนักงานบริการนั้นเขาก็จะเป็นคนคุ้นเคยกันดี เขาทักทายเราอย่างคุ้นเคย ผมว่าเสน่ห์แบบนี้มันไม่ได้มีกันทุกร้าน บางครั้งผมจะพาท่านพ่อ ท่านแม่ มาทานอาหารเวลาขับรถออกก็จะถามท่านพ่อท่านแม่ว่าอยากทานอะไร ท่านก็นึกไม่ออก แต่พอเราถามไปว่า ไปที่ร้านสีฟ้าเอาไหม ท่านมักจะตอบว่าก็ได้ ผมว่ามันเป็นอะไรที่มีความเป็นครอบครัวมาก และท่านพ่อท่านแม่ก็มักจะประทับใจเสมอ